2 ปี ที่ ไทรงาม

ตอนที่ได้รับคำสั่งให้ย้ายมาดำรงตำแหน่ง ไทรงาม 1 เมื่อประมาณกลางเดือนมีนาคม ปี 61  ลองค้นข้อมูลจากกูเกิ้ลเพื่อหารายละเอียดเกี่ยวกับที่ทำงานใหม่ก็พบเรื่องราวที่ไม่ดี  สื่อถึงกับใช้คำว่า มีอาถรรพณ์  เจ้าที่แรง  ทำให้ผู้มาดำรงตำแหน่งต้องประสบเคราะห์กรรมต่าง ๆ นานา   บรรดาคนที่รู้จักก็บอกให้ไปทำบุญถวายสังฆทาน  จะได้ทำงานอย่างราบรื่น

     ที่ตั้งตัวสถานีตำรวจภูธรไทรงาม  ถามคนเก่า ๆ แล้ว  เขาว่าเป็นป่าช้าเก่า   อาคารหลังเก่าที่เป็นไม้(เขาว่าอาถรรพณ์) ก็ถูกรื้อถอนไปแล้วสร้างอาคารตึก 3 ชั้นเป็นที่ทำการปัจจุบัน  ต้นไทรหน้าโรงพัก(นี่ก็อาถรรพณ์อีก) ก็ถูกตัดทิ้งไปเพื่อปรับภูมิทัศน์ให้โปร่ง 

     ด้วยความที่เป็นคนไม่เชื่อเรื่องโชคลาง อาถรรพณ์ ฤกษ์ยาม อะไรพวกนี้   เลยไม่ได้ทำอะไรเป็นพิเศษ  ก็ไปทำงานตามปกติ  บางคืนก็นอนที่ทำงาน ก็ไม่เห็นจะมีอะไรเกิดขึ้น 

     แต่สิ่งที่ได้จากการทำงานเกือบ 2 ปี คือ ที่นี่ผู้ปฏิบัติงานทุกคนมีความตั้งใจทำงาน  และสามารถเปลี่ยนความตั้งใจมาเป็นผลการปฏิบัติที่ดีได้  โดยสรุป

• ชนะเลิศประกวดงานป้องกันปราบปรามดีเด่น ปี 61 และ 62
• ได้คะแนนอันดับ 1 จากการตรวจงานของ จเร ปี 62
• ชมเชยในเรื่องการฝึก และ ชมส.

     แม้เป็นโรงพักขนาดเล็ก มีเจ้าหน้าที่รวม ๆ กันแค่ห้าสิบว่าคน  ขาดแคลนในทุกเรื่อง  แต่สามารถควบคุมสถานภาพอาชญากรรม และผลิตผลงานติดอันดับ  เป็นที่น่าพอใจ   อันนี้ต้องให้เครดิต ยกความดีความชอบให้กับพี่น้องข้าราชการตำรวจทุกนาย  

     เปรียบกับทีมฟุตบอล   ไทรงาม น่าจะเป็นทีมกลาง ๆ ตาราง  แม้จะไม่ได้แชมป์ลีก แต่ผลการปฏิบัติน่าจะได้แชมป์บอลถ้วย และรักษาอันดับที่กลางตารางได้ดี(ไม่เสี่ยงตกชั้น)   ถือเป็น 2 ฤดูกาลที่ดี  ก่อนจะย้ายไปคุมทีมในลีกใหม่   สำหรับชีวิตราชการ วันข้างหน้าก็อาจเวียนมาบรรจบพบกันอีก แต่ขอให้จะไว้ว่า

You'll Never Walk Alone