R.I.P. คุณยายนิรัตน์ เฮงรัศมี

ผมเคยได้ไปเที่ยวอุตรดิตถ์ในช่วงปิดเทอมตอนเด็ก ๆ โดย คุณยายนิรัตน์  เฮงรัศมี  ได้พาผมและพี่น้อง นั่งรถไฟจากสถานีนครสวรรค์ หวานเย็นไปถึงอุตรดิตถ์  ได้สัมผัสบรรยากาศการนั่งรถไฟชั้น 3   ที่จอดมันเกือบทุกสถานี  พอจอดก็จะมีแม่ค้าหาบเร่ มาขายสินค้าที่หน้าต่างรถไฟกันเลย  บางเจ้าก็ขึ้นมาขายบนรถเลยก็มี   บรรยากาศแบบนี้คงหาไม่ได้แล้วในยุคนี้

     นั่งรถไฟนานมากกว่าจะถึง ประมาณ 4 - 5 ชม. ได้(ถ้าจำไม่ผิด)  บ้านยายเป็นห้องแถวไม้ 2 ชั้น อยู่ใกล้สถานีรถไฟอุตรดิตถ์  และไม่ห่างจากแม่น้ำน่านเท่าไหร่  ตอนนั้นน่าจะประมาณอนุบาลหรือประถมต้นได้มั๊ง  ยายจะพาไปเล่นน้ำน่าน  มีหาดทรายและน้ำตื้น ๆ  ท่าแรกที่ยายสอนคือท่า "ลูกหมาตกน้ำ"  ถ้าเป็นแล้วก็จะหัดท่า "วัดวา" ต่อให้  ตอนนั้นแม่น้ำยังสะอาด  สามารถลงเล่นได้

     ในช่วงนั้น คุณตา หรือ กง ยังแข็งแรงดี  ในยุคนั้นถนนหนทางยังไม่เจริญเหมือนปัจจุบัน  แต่การใช้รถก็มีไม่มากเท่าไหร่  การเดินทางโดยรถไฟก็ยังเป็นที่นิยม  ถ้าลงรถไฟแล้วมีสัมภาระมาก ก็เรียกสามล้อถีบให้ไปส่งได้   การอาศัยอยู่ใกล้สถานีรถไฟ เด็ก ๆ ยุคนั้นจะมีการนำเอาฝาจีบขวดน้ำอัดลมไปวางให้รถไฟเหยียบให้แบน  เจาะรูสองรู ร้อยเชือก แล้วนำมาหมุนเล่นกัน(อืม ... เริ่มเล่าความหลังแล้ว)


     คุณยายนิรัตน์ฯ ถือเป็นผู้หญิงแกร่งแห่งยุคสมัย ช่วงชีวิตระหว่าง พ.ศ.2461 - 2559 เป็นคุณทวด 5 แผ่นดินเลยทีเดียว  แกมักจะทำอะไรด้วยตนเองเสมอ  ไม่ค่อยให้คนช่วยเท่าไหร่  ชอบอ่านหนังสือ เป็นคนมีความรู้จากการอ่านมาก  อ่านพูดเขียนได้ทั้งภาษาไทย และจีน  เมื่อครั้งยังแข็งแรง ท่านเดินไปขึ้นรถสองแถวเข้าตลาด ซื้อผัก ซื้อหมู มาทำครัวให้ได้ทานกัน  ของอร่อยฝีมือยายก็เช่น น้ำพริกกะปิ , หมูโค๊ะ  ในช่วงมัธยมต้นผมเองยังเคยนำกับข้าวฝีมือยาย ฝีมือแม่ ห่อไปทานที่โรงเรียนชายเลย

     คุณยายนิรัตน์ฯ ท่านได้เขียนพินัยกรรมส่วนตัวไว้ตั้งแต่ปี 2546 ดังเอกสารที่ระลึกที่ได้พิมพ์แจกในงานฌาปนกิจข้างต้นนี้  และท่านได้จากไปอย่างสงบในช่วงค่ำวันที่ 24 ธันวาคม 2559  ลูกหลานได้นำเถ้ากระดูกไปโปรย ณ ต้นแม่น้ำเจ้าพระยา เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม ที่ผ่านมา

     จึงบันทึกไว้ด้วยความระลึกถึงตลอดไปครับยาย

เป่าเค้กวันเกิดปีที่ 98(5 พ.ย.59) ยายชอบเค้กช็อคโกแลต



ปล.  ขอขอบคุณกัลยาณมิตรผู้มาร่วมงานศพยายนิรัตน์ฯ ทุกท่านจากใจ

ความคิดเห็น

  1. การขึ้นรถไฟหวานเย็น(รถธรรมดาชั่น 3)ทำให้ได้ลองทานอาหารอร่อยๆประจำแต่ละถิ่นแต่ละสถานีด้วยเช่นขนมจีบสถานีบางมูลนาก

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. คิดถึงบรรยากาศสมัยเก่าเลยครับ

      ลบ

แสดงความคิดเห็น