จากน้ำท่วม สู่ น้ำแล้ง ?!!?

เมื่อปี 2554 ที่ผ่านมา คงยังจำกันได้ว่าเกิดวิกฤติการณ์น้ำท่วมใหญ่ ระดับมหาอุทกภัย  สร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินทั้งอาคารบ้านเรือน และภาคเกษตรกรรม  มาถึงปีนี้ 2558 ผ่านมาเพียง 4 ปี กลับเกิดวิกฤติภัยแล้ง ขนาดที่ว่าห้ามทำการเกษตรกันเลย

     สำหรับคนเมืองคงมีวิธีประหยัดน้ำที่พอจะทำกันได้เองบ้าง  มาดูวิธีประหยัดน้ำกันดีกว่าครับ ว่ามีทางไหนที่พอจะทำได้บ้าง
  1. อาบน้ำด้วยฝักบัว ถือเป็นวิธีที่ใช้น้ำน้อยที่สุดแล้ว แต่ต้องปิดฝักบัวขณะฟอกสบู่และสระผมด้วยนะครับ
  2. ตรวจสอบท่อประปาเพื่อหารอยรั่วต่าง ๆ ใช้วิธีดูด้วยสายตา และปิดก็อกทุกตัว แล้วดูว่ามิเตอร์น้ำหมุนหรือไม่
  3. ตอนล้างหน้า แปรงฟัน ก็อย่าเปิดก็อกทิ้งไว้ครับ นิด ๆ หน่อย ๆ แต่หลายวันก็ช่วยได้ครับ
  4. การล้างรถ อย่าเปิดสายยางทิ้งไว้ ควรหาหัวฉีดแบบกด  เมื่อไม่กดใช้ น้ำก็ไม่ไหล รึจะให้ดีก็ไม่ต้องล้างรถ ใช้ปัดถี่ ๆ แทน 55
  5. ใช้ก็อกประหยัดน้ำ แบบที่มีฟองอากาศ เพื่อลดปริมาณการใช้น้ำ
  6. ล้างจาน ล้างแก้ว ในภาชนะเช่น ถังน้ำ กระแป๋ง จะประหยัดว่าเปิดก็อกล้าง
  7. ซักผ้าด้วยมือ ประหยัดว่าซักเครื่อง(แต่ก็เหนื่อยกว่านิ^^)
  8. ชักโครก เลือกใช้รุ่นประหยัดน้ำ  หรือเป็นโถนั่งแบบตักราดก็ได้ / การติดตั้งโถปัสสาวะชาย ก็จะช่วยประหยัดน้ำได้อีกด้วยครับ
     เหล่านี้คือวิธีที่ท่านจะช่วยประหยัดน้ำได้ในชีวิตประจำวัน  ไม่ยากเลยใช่มั๊ยครับ  ลองทำแบบเข้มงวดดูซักเดือน แล้วมาดูกันครับ ว่าค่าน้ำจะลดลงหรือไม่  อย่าคิดว่าค่าน้ำถูก ๆ เลยละเลย ไม่สนใจนะครับ เพราะการทำน้ำประปา ต้องใช้พลังงานไฟฟ้าจำนวนมาก  ประหยัดน้ำประปาได้ ก็คือการประหยัดพลังงานด้วยเหมือนกันครับ

     ช่วงนี้หลายพื้นที่อาจมีการเปิดปิดการส่งน้ำประปาเป็นช่วง ๆ เนื่องจากน้ำในระบบมีไม่เพียงพอ  แต่ละบ้านจึงต้องเตรียมถังน้ำ โอ่ง เพื่อสำรองน้ำใช้  อย่างน้อยต้องอยู่ได้ 2 - 3 วัน หากน้ำประปาไม่ไหล  ที่สำคัญ "อย่าเปิดน้ำทิ้งไว้" เด็ดขาด !  เมื่อน้ำเต็มแล้วจะล้นออกมาน่าเสียดายมาก ๆ ครับ

     ทราบแล้วบอกต่อ พร้อมปฏิบัติ  ช่วยกันคนละไม้ คนละมือนะครับ ^^

ขอบคุณ ที่มา http://nakhonsawanpost.blogspot.com/2013/03/blog-post_30.html

ความคิดเห็น